
ในช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ มันต้องมีซักวันที่ผม(อยาก)จะนอนตื่นสายๆ
ขับรถบนถนนที่รถโล่งฟังเพลงของ Jack Johnson ไปด้วย ออกไปฝึก
โยคะแบบง่ายๆ พอฝึกเสร็จผมชอบอาบน้ำด้วยเจลอาบน้ำกลิ่นลาเวน
เดอร์ของ L'occitane (ชอบมากที่สุด) แต่งตัวไปหาอาหาร(เกือบ)มัง
สวีรัติอร่อยๆทาน วันนั้นผมจะไม่เซทผม จะแค่เอาไดร์เป่าให้แห้งให้รู้สึก
สบายๆไม่ทาครีมกันแดด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรู้สึกถึงสารเคมีที่มาอยู่บน
ร่างกายของเรา พอทานมื้อเที่ยงเสร็จ ถ้ามีเวลากลับบ้านสิ่งที่จะทำให้ชีวิต
มีความสุขที่สุดคือการนอนตอนบ่าย (ที่ไม่เซทผมก็เพราะงี้แหละ จะได้
กลับมานอน การงีบซักครึ่งชั่วโมงในช่วงบ่ายจะทำให้ตื่นมารู้สึกสดชื่น
มากมาย แล้วออกไปช็อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้า หาร้านอาหารอร่อยสำ
หรับมื้อเย็น ที่เล่ามาแค่อยากบอกว่าวันที่แสนสบายนั้นผมจะเลือกใส่ชุด
ที่ทำจากผ้าลินิน ลินินเป็นผ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคอียิปต์
โบราณ ผ้าลินินผลิตจากเส้นใยธรรมชาติจำพวก ปอ ป่าน หรือฝ้าย ที่มี
ช่องว่างภายในเส้นใยมาก ทำให้ดูดซับความชื้นของร่างกายได้ดี
ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกแห้งสบาย

ผมชอบเสื้อผ้าลินินของยี่ห้อ British India มาตั้งแต่เด็กๆแล้วเนื่องจากเห็น
ลูกค้าฝรั่งของห้องเสื้อคุณแม่ชอบใส่กัน บางทีก็ให้ไปซื้อผ้าลินินมาก๊อปแบบ
แต่ British India ไม่ทำเสื้อ size เล็กเลย ด้วย style ที่ต้องใส่หลวมๆดูสบาย
แล้ว ยิ่งทำให้ size เล็กของเค้าดูใหญ่เกินทำสำหรับคนตัวเล็กอย่างผม เคยได้
ลองใส่ size เล็กสุดดูแล้วรู้สึกเหมือนว่าจะกระโดดออกจากเสื้อได้ ทำไมกันนะ
ผมก็เลยตั้งใจไว้ว่าถ้าวันนึงได้ทำเสื้อผู้ชายจะเอาความเป็น cool casual ของ
ผ้าลินินมาออกแบบ item ต่างๆ เช่นเสื้อเชิ๊ต กางเกง แจ็คเก็ต accessory เช่น
เนคไท ผ้าเช็ดหน้า หรือว่าซองใส่ของ เพราะว่าผมมีประสบการณ์ที่ดีกับวัสดุ
ชนิดนี้ แต่เท่าที่รู้ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักผ้าตัวนี้ จะรู้แต่ว่าเป็นผ้าที่
ใส่แล้วยับๆ แล้วก็สีตก อันนี้ก็จริงนะ ผมเคยซื้อผ้าลินินสีบานเย็นมาแล้วพับไว้
วางบนโต๊ะแล้วเอาผ้าขาววางทับ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ผ้าขาวเลอะสีผ้าลินินเลย
ทั้งที่ไม่มีน้ำหกใส่ อาจจะเป็นเพราะอากาศชื้น แต่เส้นใยธรรมชาติมันย้อมสีติด
ได้ง่ายก็สีตกได้ง่ายอยู่แล้ว ยังไงก็ลองใส่กางเกงผ้าลินินสีธรรมชาติ แบบไม่
ฟอกดูสิ กางเกงผ้าลินินทำให้ผมเกลียดการใส่กางเกงยีนส์ไปเลย ในชีวิตนี้นับ
วันที่ใส่กางเกงยีนส์ได้ เพราะฉะนั้นในหัวผมเลยไม่มีไอเดียเรื่อง Levi, Diesel
ซักเท่าไหร่


No comments:
Post a Comment